ข้อเสีย ที่เห็นได้ชัดคือ ทำงานได้ช้าเมื่อเทียบกับแบบอื่นๆ และราคาไม่ได้ถูกเลยในตอนนี้ อาจเพราะว่าไม่ค่อยมีการผลิตแล้ว เพราะว่าคนส่วนใหญ่มักไม่เลือกรุ่นนี้ แม้ว่ารุ่นนี้จะมีแบบสีเช่นกัน แต่ว่าสีไม่สดและสีไม่สวยเหมือนรุ่นอื่นๆ การต่อรวมกับ Network รุ่นพวกนี้มักจะทำไม่ได้ แต่สามารถต่ออุปกรณ์เสริมเพื่อให้ทำงานผ่าน Network ได้ และข้อสำคัญคือ หยาบมากเมื่อเทียบกับแบบอื่นๆ เพราะว่าเข็มที่พิมพ์นั้นมีขนาดใหญ่ ทำให้อักษรไม่สวย และเมื่อพิมพ์ภาพก็ไม่สวยเช่นกัน | |
ตัวอย่างอักษรที่พิมพ์ออกมา จะเห็นได้ว่าจำนวน Pixel ต่ออักษรนั้นต่ำมากทำให้ภาพหยาบ | |
รุ่นต่อมาคือ Inkjet หลายๆท่านอาจเรียกว่า Bubble Jet เนื่องจากว่าใช้หมึกที่เป็นน้ำนั้นเอง ตอนออกมาแรกๆ จำได้ว่าหมึกทุกสีนั้นรวมกับเป็นตลับเดียวทำให้เปลืองมาก เพราะว่าหากสีใดหมดก็ต้องซื้อใหม่ทั้งตลับ ต่อมามีการแยกตลับสีออกเป็นสีๆทำให้ประหยัดได้มากยิ่งขึ้น และท้ายที่สุดมีการออกแบบให้เป็น Tank ซึ่งประหยัดแบบสุดยอด ข้อดี เครื่องราคาประหยัด บางรุ่นแค่พันกว่าบาทหรืออาจน้อยกว่านั้น ทำงานเร็วพอใช้ได้ ประมาณมากกว่า 10 แผ่นขาวดำต่อนาที ประหยัดไฟที่สุดในบรรดา Printer ด้วยกัน ภาพสวยงามสีสดใส หมึกราคาไม่แพงมากมีแบบแยกสีหรือเติมหนึกเองซื้อแบบเป็นขวดมาเติม ข้อเสีย หมึกมักอุดตันหัวพิมพ์ มักทิ้งเครื่องไว้นานๆไม่ได้เพราะจะทำให้หมึกตัน และบางรุ่นหัวพิมพ์ติดอยู่กับหมึกทำให้มีราคาสูง และทำให้ต้องซื้อของผู้ผลิตเองเท่านั้น หมึกมักไม่ทนน้ำ ทำให้เลอะเมื่อโดยความชื้น กระดาษที่ใช้ต้องดูดน้ำหมึกได้ดี ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เลอะได้ | |
ตัวอย่าง หมึกแบบ Tank ซึ่งราคาไม่แพงเมื่อรวมเข้ากับ Printer แล้วราคาแค่สองพันหรืออาจน้อยกว่านั้น ทำให้ต้นทุึนต่อแผ่นนั้นสามารถเทียบได้กับ Laser Printer แต่ว่าหากหมึกไม่ได้คุณภาพจะให้หัวพิมพ์ตันได้ง่าย และหมึกแบบนี้มักไม่กันน้ำหรือสีอาจเพี้ยนเมื่อโดนแสงแดด เมื่อก่อนผมเองใช้แบบนี้แต่พบว่ามักเจอปัญหากับหมึกที่ไม่ค่อยคงเส้นคงวา เท่าไหร่ และหากไม่ได้พิมพ์นานหน่อยจะทำให้หัวพิมพ์ตันได้ง่าย | |
อีกรูปแบบหนึ่งที่เป็น Inkjet เหมือนกัน ทำหน้าที่พิมพ์ CD/DVD นั้นเองแต่ว่าต้องใช้หมึกเฉพาะที่สามารถยึดเกาะแผ่นได้ | |
อัน นี้ไม่เกี่ยวกับ Printer เป็น DVD ประเภทหนึ่งชื่อ LightScript หลายท่านอาจเข้าใจผิดว่าเป็นการพิมพ์ด้วย Printer จริงๆแล้วไม่ใช่แต่อย่างใด | |
นี้ เป็นแบบ Inkjet เหมือนกันโดยทำหน้าที่ในการพิมพ์รูปเป็นสำคัญ ซึ่งสามารถใส่ Memory Card ได้โดยตรงและมีจอ LCD เลือกรูปได้ด้วย ราคาเครื่องแบบนี้มักสูงนิดหน่อย บางคนเรียกว่า Photo Printer ซึ่งใช้เทคโนโลยีเหมือนกับ Inkjet ต่างกันเพียงแต่หมึกและหัวเข็มที่ใช้งานจะรองรับความละเอียดได้สูงกว่า | |
นี้ก็เป็นแบบ Inkjet เหมือนกันเพียงแต่ว่า สามารถพิมพ์ดอกไม้ได้ด้วย ผมเองยังไม่เคยเห็นเครื่องเป็นๆ ตัวอย่างรูปที่พิมพ์บนดอกไม้ | |
นี้เป็นอีกแบบหนึ่งที่หลายๆท่านมักเข้าใจผิดว่าเป็น Inkjet จริงๆแล้วไม่ใช่แต่อย่างใด เพียงแต่ว่าใช้น้ำหมึกเหมือนกัน | |
อีกรุ่น ของ Printer ตอนนี้ราคาถูกกว่าแต่ก่อนมากแล้ว คือ Laser Printer มีทั้งแบบขาวดำ ที่ราคาถูก หรือแบบสี มักจะใช้เพื่อพิมพ์เน้นปริมาณ เพราะว่าต้นทุนต่อแผ่นนั้นถูกกว่าแบบอื่นๆ นอกจากโรเนียวซึ่งผมไม่นับเป็น Printer แต่อย่างใด การทำงานจะอธิบายรูปต่อไป ข้อดี ต้นทุนต่ำต่อแผ่น ทำงานไ้ด้เร็วไม่น้อยกว่า 20 แผ่นต่อนาที ภาพสวยงามสดใสและกันน้ำได้ดี ซื้อผงหมึกมาเติม Toner ได้ทำให้ราคาถูก ข้อเสีย ตัวเครื่องราคาสูงเมื่อเทียบกับแบบอื่นๆ กินไฟเยอะและร้อนเมื่อทำงานนานๆ เพราะว่าต้องละลายหมึก มีข้อเสียต่อสุขภาพเพราะว่าไอของหมึก ตัว Drum มีราคาแพง ขนาดของตัวเครื่องใหญ่และหนัก ราคาแพงกว่า Inkjet แต่อาจถูกกว่า Dot matrix ในตอนนี้ ไม่สามารถพิมพ์บนกระดาษโลหะฟอยล์ในบางรุ่น ตอนนี้ผมเองก็หันมาใช้รุ่นนี้ เพราะว่าต้นทุนต่อแผ่นนั้นต่ำและกันน้ำได้ดี แม้ว่าต้องจ่ายเยอะหน่อยในตอนแรก | |
ข้อระวังคือ อย่าเอามือมันๆ ไปแตะตัว Drum เพราะอาจทำให้รูปไม่สวย เวลาทำงานไปสักพักตัว Drum จะร้อนหากหมึกหมดพอดี แนะนำรอให้เครื่องเย็นก่อน ไม่อย่างนั้นอาจเจ็บมือได้ หากแกะเครื่องเล่น อย่าเอาตาไปจ่อ Laser อาจตาบอดได้ เพราะว่าเป็น Laser Class B ขนาด 5-15 mW ไม่แรงพอเผาตัวเราแต่ว่าพอทำให้ตาบอดได้ และเรื่องของไอผงหมึกต้องระวังไม่อยู่ใกล้เครื่อง อาจเป็นโรคปอดได้ | |
นี้คือตัวอย่าง Drum ขนาดขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องและกระดาษที่รองรับ | |
นี้คือตัวอย่าง Toner | |
นี้ คือตัวอย่างผงหมึก ซื้อแบบนี้เติมเองได้ โดยเถใส่ Toner แต่ต้องระวังเรื่องประกัน อาจทำให้หมดประกันได้ และ Toner บางรุ่นไม่มีช่อง ต้องเจาะช่องเอง ผงหมึกที่ใช้ต้องระวังให้ใช้ของมีคุณภาพเพราะอาจทำให้ Drum เสียหายได้ และอีกอย่าง Drum แพงกว่า Toner มาก | |
นี้ คือ multi-function เป็นได้ทั้ง Scaner ,Printer ,Copier ,Fax หรืออื่นๆอีกมากมาย ซึ่งมีทั้งแบบ Inkjet และ Laser (แพงกว่า) ตอนนี้กำลังได้รับความนิยม ราคาจะถูกกว่าการซื้อแต่ละชิ้นแยกต่างหาก แต่ว่าคุณภาพมักสู้แบบซื้อแยกไม่ได้ เช่น Printer ก็มักเป็นแบบธรรมดาพิมพ์ภาพถ่ายสู้ Photo Printer ไม่ได้ Scanner ก็มักทำงานสู้แบบ Scanner ที่ทำงานเฉพาะไม่ได้ แต่ได้เปรียบเรื่องราคา เหมาะกับบ้านหรือสำนักงานขนาดเล็ก | |
อีก แบบหนึ่งที่มีให้เห็นในไทย คือแบบ Thermal Printer โดยใช้ความร้อน ไม่จำเป็นต้องใช้ผงหมึกเหมือน laser printer แต่ว่าต้องใช้กระดาษเฉพาะที่จะำดำเมื่อโดนความร้อน ตอนนี้มีแบบสีเดียวเท่านั้น (Mono Coler) มักจะเห็นกระดาษสีดำ 7-11 ก็ใช้แบบนี้ ข้อเสีย มีสีเดียว กระดาษไม่ทนร้อนหากตากแดดนานๆจะเป็นสีดำ ตัวกระดาษเหมือนพลาสติกมากกว่ากระดาษ(ก็มันเป็นพลาสติก) ตัวกระดาษจะไม่แข็งเหมือนกระดาษทั่วๆไป(เป็นพลากติกบางๆ แต่ว่าตอนนี้มีกระดาษรุ่นเคลือบพลาสติกทำให้รู้สึกเหมือนกระดาษจริง) | |
วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552
How to buy Printer for u ( 2 )
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น