หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

รากฐานของ Creative economy

คงเป็นการยากหาก เรายังคงก้าวเดินต่อไปบน เทคโนโลยีที่ล้าสมัย การที่จะให้เกิดการเรียนรู้แบบยั่งยืนได้นั้น จะต้องมีปัจจัยในด้านต่างๆพร้อม เช่น แรงจูงใจในการศึกษา ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม จะว่าไปแล้ว สังคมการเรียนรู้บ้านเรา ยังคงยืดติดกับห้องเล็ก ๆ ที่เป็นความรู้ที่ตายตัว (static) ไม่ได้รับการปรับให้เหมาะกับยุคสมัย จึงอยากนำเสนอ การเรียนรู้อีกวิธีหนึ่งที่ใช้เทคโนโลยี ในการสืบค้นข้อมูล เพื่อให้เกิดการเรียนรู้แบบครบองค์ความรู้ โดยการปรับให้เข้าสู่ ยุคที่แข่งกันด้วยพลังแห่งนวัตกรรม เพื่อเป็น รากฐานของ สังคม แบบ Creative economy
ก่อนอื่นของ อิงอ้างข้อความจากคุณ putchonguth ซึ่งใช้สูตรของไอน์สไตน์อธิบายได้ดังนี้

E= MC^2

E= Education เกิดจาก

M= Motivation ทำอย่างไรให้คนอยากเรียนอยากรู้ ขุดค้นลงไปเอง

C= Collaboration การศึกษาอย่างลึกซึ้งเป็นเรื่องของการประสานงานเป็นทีมร่วมมือกันและเปลี่ยนความรู้กัน

C= Communication การศึกษาเป็นผลของการสื่อสารกันอย่างรวดเร็ว การที่สามารถเก็บ สืบค้น ประมวลผลและกระจายความรอบรู้ได้เร็วมากๆ


ด้วยเหตุนี้เอง จะเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเทคโนโลยีที่จะนำพา ให้ไปถึง แหล่งข้อมูลหรือการประสานงาน ต่างๆให้รวดเร็ว โดยการพึ่งพาปัจจัยทางด้าน Cyber infrastructure ใ้ห้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งการพัฒนาในด้าน infrastructure นั้นภาครัฐและทุกๆฝ่ายควรให้ความสำคัญในการผลักดันให้มีใช้งานกันทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ เราจะเห็นได้ว่าในประเทศที่เขามีความก้าวหน้า จะพัฒนา Cyber infrastructure ให้มีความก้าวหน้า เช่น ญี่ปุ่น , เกาหลี เพื่อให้ประชาชนในประเทศได้ใช้ประโยชน์ในการสื่อสาร กันอย่างเต็มที

ไม่มีความคิดเห็น: