เทคโนโลยีกริด ( Grid Technology ) เป็นเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมต่อ ทรัพยากรคอมพิวเตอร์จำนวนมาก เข้าด้วยทรัพยากรคอมพิวเตอร์เหล่านี้ อาจจะเป็นหน่วยประมวลผลเนื้อที่จัดเก็บข้อมูลหรือฐานข้อมูล เป็นต้น โดยทรัพยากรเหล่านี้ อาจตั้งอยู่ในสถานที่ที่ใกล้กัน หรือห่างกันข้ามทวีปก็ได้ การเชื่อมต่อทรัพยากรทั้งหลาย เข้าเป็นหน่วยเดียวกันนี้นำไปสู่การแบ่งปันทรัพยากรขนาดใหญ่ และการร่วมมือกันระหว่างผู้ใช้ และโปรแกรมที่อยู่คนละสถานที่คนละองค์กร ทำให้บางองค์กรเรียกเทคโนโลยีนี้ว่าการประมวลผล ตามความต้องการ ( On-demand Computing ) อีกด้วย
ในต่างประเทศมีการนำหลักการของ Grid Computing มาใช้ในการแกะเข้ารหัส DES ด้วยวิธีการ Brute Force Attack นอกจากนี้ยัง มีนักวิจัย ด้าน Bio-Informatics ในมหาวิทยาลัย ต่าง ๆ ทั่วประเทศ สามารถ สร้างกลุ่มวิจัยที่ เน้นด้านนี้และใช้งานคอมพิวเตอร์ Database ต่างๆ ร่วมกันได้ ซึ่งเทคโนโลยีระบบกริด จะเป็นรากฐานสำคัญ ในการสรา้างองค์กรเสมือนโครงการ World Community Grid ของบริษัท IBM เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการนำ เทคโนโลยีกริด เข้ามาเป็นโครงข่ายเพื่อเชื่อมต่อและดึงความสามารถ ในการคำนวณของเครื่อง คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลซึ่งเป็นส่วนที่ว่างจากการใช้งาน ( Idle Capacity) ขณะที่เชื่อมต่อ กับอินเทอร์เน็ต โดยการบริจาคมากจาก บุคคล ทั่วไป และ Partners ของโครงการทั่วโลก
ในระดับโลกเทคโนโลยีกริดถูกนำมาใช้ในหลายสาขาสามารถแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ 3 กลุ่ม คือ
- กลุ่มอุตสาหกรรม ( Manufacturing ) เช่น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการ Simulation ของเครื่องยนต์ เครื่องบิน เพื่อใช้ในการออกแบบทดสอบ การกระแทกของรถยนต์ ให้มีความปลอดภัยสูงที่สุด บริษัทที่ใช้เทคโนโลยีกริดสำหรับการออกแบบนี้ได้แก่ บริษัท LandRover บริษัท Audi เป็นต้น
- กลุ่มพัฒนางานวิจัย ( Research Development ) ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก เช่น การวิเคราะห์ตัวยา
- กลุ่มการเงินการธนาคาร ( Finanicial ) เทคโนโลยีกริดสามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์การประเมินความเสี่ยงซึ่งในปัจจุบัน ปัญหาที่เกิดขึ้นมีจำนวนมาก และใช้เวลาในการวิเคราะห์ที่นาน
ดังนั้น การนำเทคโนโลยีกริดมาใช้จึงทำให้ลดระยะเวลาในการวิเคราะห์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น บริษัทที่ใช้ เทคโนโลยี ชนิดนี้ ได้แก่ บริษัท Telco จำกัด อย่างไรก็ตามหากพิจารณาในภาพรวม จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีกริด สามารถนำไปใช้ได้ในเกือบทุกสาขา โดยเฉพาะกลุ่มสาขาวิชาที่สำคัญ 5 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ LifeScience , Digita Media / Animation , Enterprise Computing , ComputerScience , Education ในประเทศไทยเทคโนโลยีกริดเริ่มเข้ามามีบทบาท เมื่อประมาณ พ.ศ. 2545 นักวิทยาศาสตร์ไทย ภายใต้ความร่วมมือของภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ และภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณืมหาวิทยาลัย ได้พยายามแก้ปัญหา กำลังการ ประมวลผล ทางด้านเคมี ( Computational Chemistry ) สำหรับการคำนวณ หาพลังงานและคุณสมบัติต่างๆของโมเลกุล ซึ่งพบว่า งานที่ทำในคอมพิวเตอร์ 1 งานต่อหน่วยวิจัย จะใช้เวลา ประมาณ 1 วัน หากมีจำนวนงานมากขึ้น ก็ต้องใช้เวลาในการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์นานนับสัปดาห์
ดังนั้น จึงได้เกิดแนวคิดในการสร้างคลัสเตอร์คอมพิวเตอร์ขึ้นเชื่อมต่อเป็นระบบกริด เพื่อให้สามารถ ช่วยงานประมวลผลในรวดเร็ว ยิ่งขึ้นรวมทั้งได้พัฒนาหน้าจอให้ใช้ได้ง่ายขึ้น ( Grid Portal ) สำหรับการเข้าใช้บริการ รันโปรแกรม ทางด้าน เคมี นักวิจัยสามารถส่งสาน ไปมาบนคลัสเตอร์ที่อยู่ในระบบกริด และ สามารถใช้โปรแกรมต่างๆ เพื่องานวิจัยทางเคมี เพื่อสนับสนุนงานวิจัยในการหายารักษา โรคชนิดใหม่ปัจจุบัน เทคโนโลยีกริดในประเทศไทย สามารถนำไป ประยุกต์ในการประมวลผลได้หลายโครงการ ได้แก่การพยากรณ์ อากาศ ( Disaster Simulation ) การจำลอง ศึกษาปรากฎการณ์ Tsunami ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ การคิดค้นยารักษาโรค การศึกษา ด้านนาโนเทคโนโลยี การออกแบบทางวัสดุศาสตร์ ประยุกต์ในงานต่างๆ ด้าน CFD เช่นการออกแบบห้องสะอาดการทำ Animation สำหรับ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ การทำ Collaborative E-learning
ดังนั้นคณะรัฐมนตรี มีมติ เืมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2547 เห็นชอบให้มีการจัดตั้งโครงการ "ศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยี กริดแห่งชาติ" ( National Grid Technology Development Center ) ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร เสนอ และให้มีระยะเวลา ดำเนิดโครงการฯ 3 ปี ( พ.ศ. 2548-2550) โดยให้งบประมาณสนับสนุนจำนวนในวงเงิน 221,839,941 บาท จากงบกลางรายการค่าใช้จ่าย เพื่อการส่งเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขัน และพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงได้มอบหมายให้ สำนับงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ ( องค์การมหาชน ) ( SIPA ) ดำเนินการจัดตั้ง "ศูนย์ไทยกริดแห่งชาติ" ( Thai National Grid Center : TNGC ) ขึ้นเมื่อต้นปี 2549
การแบ่งกันใช้ทรัพยากรทำให้ทรัพยากรทางไอทีถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ Grid สามารถ นำมาประยุกต์ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและการสื่อสาร เช่น งาน e-Goverment, e-Healthcare สามารถสร้างระบบที่แลกเปลี่ยนเพิ่มข้อมูลอย่ารวดเร็วและปลอดภัยที่เรียก ว่า Data Grid ความสามารถ ที่จะทำให้งานวิจัยยากๆ ที่ต้องอาศัยการประมวลผลสูง งานที่ถ้าต้องทำด้วยคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวอาจ จะต้องใช้เวลาเป็นปี จึงจะคำนวณเสร็จ ให้เหลือเวลาในการคำนวณในระดับเป็นวัน เป็นชั่วโมงเท่านั้น สามารถสร้างโอกาส ทางธุรกิจด้านสารสนเทศโดยอาศัย เทคโนโลยี Grid ช่วยขจัดปัญหาค่าใช้จ่ายด้านทรัพยากรคอมพิวเตอร์หรือช่วยในการเก็บและ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าที่มากมายมหาศาล
การนำระบบ Grid ไปใช้ในปัจจุบันได้มีการนำระบบ Grid ไปประยุกต์ใช้กับงานหลายประการได้แก่
- บริการประมวลผล (Computational Service) เป็นรูปแบบของการให้บริการพลังการ ประมวลผล โดยรับงานจากผู้ใช้ และหาเครื่องที่เหมาะสมเพื่อประมวลผลงานนั้น ระบบกริด ที่ให้บริการรูปแบบนี้ มักถูกเรียกว่า Computational Grid
- บริการ ข้อมูล(Data Service) ให้บริการเนื้อที่ในการเก็บและค้นหาข้อมูลซึ่งข้อมูลเหล่านั้น อาจถูกเก็บกระจายอยู่ ณ สถานที่ต่างๆ และมีผู้ดูแลคนละคนกัน ระบบนี้ยังครอบคลุมถึงการรักษา ความปลอดภัยของข้อมูลภายในระบบด้วย Application ที่ต้องในรูปแบบการให้บริการนี้ มักจะเป็น Application ที่มีปริมาณและขนาดของข้อมูลมาก และข้อมูลกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ทำให้ยากแก่การเข้าถึงข้อมูล ตัวอย่างเช่น Hight Energy Physics และ Drug Design ระบบที่ให้บริการรูปแบบนี้จะถูกเรียกว่า Data Grid
- บริการ โปรแกรมประยุกต์ (Application Service) เป็นระบบที่ทำหน้าที่จัดการและจัดสรร การใช้งาน Application เช่น Software หรือ Library ที่อยู่คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งในปัจจุบันรูปแบบการให้ บริการมักจะอยู่ในรูปแบบของ Web Service ซึ่งการให้บริการนี้ จะทำงานอยู่บน Computational Service
และ Data Service ตัวอย่างของระบบนี้ได้แก่ NetSolve - บริการ สารสนเทศ (Information Service) เป็นรูปแบบการดึงและนำเสนอข้อมูลที่ถูกใช้โดย Computational Service Data Service และหรือ Application Service ซึ่งจะเกี่ยวกับ วิธีการนำเสนอ จัดเก็บ เข้าถึง แบ่งปัน และดูแลรักษาข้อมูลภายในระบบ เครื่องมือหลักที่ถูกนำมาใช้มากที่สุดในปัจจุบัน คือ Web
- บริการ องค์ความรู้ (Knowledge Service) จะเกี่ยวข้องกับความรู้ที่ได้จากการทำงาน ประกอบด้วยวิธีการที่จะได้มา การใช้ การนำมาใช้ การประกาศ และการดูแลรักษาความรู้ต่างๆภายใน ระบบเครื่องมือที่นำมาใช้ คือ Data Mining
ตัวอย่าง Application จริงของระบบกริด
Scientific Application
- AIST ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยแห่งชาติที่ใหญ่ทึ่สุดของประเทศญี่ปุ่นได้ออกแบบและติด ตั้งระบบกริดเพื่อให้นักวิจัยภายในใช้แก้ปัญหาด้าน Life Sciences และ Nanotechnology ตั้งแต่ปี 2003
- AFM และ CNRS ร่วมกันติดตั้งระบบกริดเพื่อใช้ในการวิจัยเกี่ยวกับโรคทางพันธุกรรมและวิธีรักษาในโครงการ Decrypthon II ของประเทศฝรั่งเศส
- IPK หรือ Institute of Plant Genetics and Crop Plant Research เป็นสถาบันวิจัยพืชชั้นนำของประเทศเยอรมันี ได้ติดตั้งระบบกริดเพื่อค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับพันธุกรรมของพืช จากการใช้ระบบกริดเข้ามาช่วยทำให้สามารถลดเวลาในการเปรียบเทียบดีเอนเอของ ข้าวจำนวน 400,000 ชนิดด้วยเวลาเพียง 30 ชั่วโมงจากเวลาปกติ 200 วัน
Emergency Operation
การรับเหตุฉุกเฉินในปัจจุบันส่วนใหญ่ยังไม่เป็นระบบ และยังมีความน่าเชื่อถือไม่สูงเท่าที่ควร โดยเฉพาะเมื่อมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน เช่น แผ่นดินไหว ไฟไหม้ น้ำท่วม ซึ่งต้องการการตัดสินใจจากผู้บริหารระดับสูง อย่างไรก็ตามผู้บริหารไม่สามารถตัดสินใจได้เนื่องจากไม่มีข้อมูลมากเพียงพอ ในงาน SC 06 ที่ผ่านมา Argonne National Lab และ University of Chicago ได้ร่วมกันนำเสนอระบบ SPRUCE (Special PRiority and Urgent Computing Environment) ซึ่งสามารถแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ได้โดยการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้แจ้ง เหตุด้วยการใช้โครงสร้างพื้นฐานของระบบความปลอดภัยที่มีในระบบกริด วิธีนี้ทำให้ความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ และมีระบบอายุการใช้งานภายในตัว นอกจากนี้เหตุที่ถูกแจ้งเข้ามาจะกระตุ้นให้ระบบดำเนินการรวบรวมข้อมูลที่ได้ มานำไปจำลองด้วยระบบกริดเพื่อให้ได้ผลการวิเคราะห์สำหรับส่งให้กับผู้บริหาร ต่อไป
Enterprise Business
Wide-range Interoperability
ปัญหาที่ท้าทายที่สุดอย่างหนึ่งในโลกธุรกิจคือความยุ่งยากในการเชื่อมต่อ ระบบที่หลากหลายภายในองค์กร เช่น แผนกการตลาดเก็บข้อมูลด้วยโปรแกรมเฉพาะที่พัฒนาขึ้นบนไมโครซอฟต์วินโดส์ ในขณะที่ฝ่ายขายเก็บข้อมูลในโปรแกรมเฉพาะอีกตัวหนึ่งซึ่งใช้งานบนลินุกส์ เป็นหลัก การดำเนินงานของทั้งสองฝ่ายอาจะไม่เกี่ยวเนื่องกัน แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายวางแผนต้องการข้อมูลของทั้งสองฝ่าย เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการวางแผนด้วยโปรแกรมเฉพาะอีกตัวหนึ่ง ปัญหานี้ต้องใช้บุคลากรสำหรับจัดเตรียมข้อมูลจากสองแผนกและป้อนให้กับ โปรแกรมของฝ่ายวางแผน ปัญหานี้สามารถแก้ไขหรือทำให้หมดไปด้วยเทคโนโลยีกริด ในงาน SC 06 ที่ผ่านมาได้มีการนำเสนอการทำงานร่วมกันของระบบที่หลากหลาย โดยมีผู้ร่วมนำเสนอดังต่อไปนี้
- Argone National Lab/Globus Alliance
- EGEE
- HP
- Microsoft
- Platform Computing
- UK eScience/OMII-UK
Financial Services
- Charles Schwab ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการเงินชั้นนำของโลกได้ติดตั้งระบบกริด เพื่อช่วยให้การประเมินความเสี่ยงด้านการเงินของลูกค้าให้ถูกต้องและรวดเร็ว ยิ่งขึ้นด้วยการเชื่อมต่อแบบ SOA
- Nippon Life Insurance เป็นบริษัทด้านการประกันภัยซึ่งนำเทคโนโลยีกริดไปใช้ในการประเมินความเสี่ยง ด้านการเงินโดยสามารถลดเวลาจาก 10 ชั่วโมงเหลือเพียง 49 นาที หรือเพิ่มความเร็วได้มากถึง 12 เท่า
- RBC Insurance เป็นบริษัทด้านการประกัยภัยชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาใช้ เทคโนโลยีกริดเพื่อช่วยลดเวลาในการประมวลผล และสามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้น
- Wachovia ให้บริการด้านการเงินโดยใช้ระบบกริดในการลดเวลาในการวิเคราะห์ความเสี่ยง กำไรขาดทุนจาก 15 ชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที ทำให้สามารถตอบสนองลูกค้าได้ตามเวลาจริง
Petroleum Industry
Shell ซึ่งเป็นบริษัทปิโตรเลี่ยมชั้นนำของโลกได้ทำเทคโนโลยีกริดเพื่อเชื่อมโครงสร้างพื้นฐานของสาขาที่กระจายอยู่ทั่วโลกเข้าด้วยกัน
Automotive
EADS หรือ European Aeronautic Defense and Space ได้นำเทคโนโลยีกริดมาใช้เพื่อลดเวลาในการวิเคราะห์และจำลองการทำงานของยาน ยนต์ที่ออกแบบขึ้นก่อนผลิตจริง
Government
- EPA หรือ Environmental Protection Agency ของประเทศสหรัฐอเมริกาใช้เทคโนโลยีกริดเพื่อให้บริการการวิจัย in silico ให้แก่สมาชิก
- รัฐบาล ประเทศไต้หวันได้เชื่อมต่อสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยแห่งชาติด้วยระบบ กริดเพื่อเร่งความเร็วของงานวิจัยทั้งในระดับอุดมศึกษาและสูงกว่า
- IN2P3 ใช้ระบบกริดเพื่อช่วยให้สามารถวิจัยด้าน Life Science ได้เร็วมากขึ้นและถูกต้องมากขึ้น
Large-Scale Communication
การประชุม SC Desktop
งานประชุม Supercomputing เป็นงานประชุมด้านการคำนวณสมรรถนะสูงที่ได้รับความนิยมสูงสุดงานหนึ่ง ในงานประชุมนี้จะอนุญาตให้ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมแต่ไม่อยากเดินทางไกลสามารถ ร่วมเข้ารับฟังได้โดยผ่านทาง Access Grid ซึ่งเรียกงานนี้ว่า SC Global หรือ SC Desktop และได้จัดติดต่อกันมา 4 ปีแล้ว
Thanks : ศูนย์ไทยกริดแห่งชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น